(เป็นมุขของหลวงพ่อ) โดยหลวงพ่อได้แนะว่าในใบบอกบุญ หรือซองทำบุญ ต้องมีการประทับตรายางด้วย ซึ่งพวกเราก็น้อมรับและบอกหลวงพ่อว่าที่ใบบอกบุญสวยเช่นนี้ก็มาจากทางกู๋นุ้ย และทางพี่แจง Prezentia เป็นคนจัดการไม่ว่าจะเป็นการออกแบบโลโก้ รูปภาพ ฯลฯ และหลวงพ่อท่านจะให้นำใบบอกบุญมาไว้ที่วัดพระพุทธฉาย เป็นจำนวนประมาณ ๓,๐๐๐ ฉบับ เพื่อได้แจกจ่าย โดยทางพ่ออี๊ดจะให้ทางคุณน้อย สุรพงษ์ เป็นผู้นำไปให้หลวงพ่อ
๒. หลวงพ่อได้ฝาก ซีดี เกี่ยวกับพระพุทธศาสนามาให้ ๒๐๐ แผ่น เพื่อนำไปแจกจ่ายจะได้บุญท่วมท้น
๓. ในวันงาน หลวงพ่อบอกว่าจะมีเจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงเทพ มารอรับและนำเงินไปเข้าธนาคารให้พวกเราเรียบร้อย ไม่ต้องห่วง
๔. เรื่องเก้าอี้ และเต้นท์ ตกลงกันว่าเช่า โดยเก้าอี้ เช่าตัวละประมาณ 5 บาท และต้องเช่า ๑,๐๐๐ ตัว ส่วนโต๊ะกลม น่าจะประมาณ ๓๐ โต๊ะ เต็นท์ต้องสรุปกันอีกทีเพราะต้องประสานกับคุณแหม่มเรื่องเวที อาหาร ส่วนเรื่องการจ่ายเงินค่าเช่าดังกล่าว ให้จ่ายตอนหน้างาน เหตุที่ต้องเช่าเนื่องจาก การเช่าจะมีเจ้าหน้าที่ของเขาขนของมา และจัดแจงตั้ง พร้อมทั้งรื้อถอน และนำกลับไปเอง เราไม่ต้องยุ่ง ส่วนใครจะเอามานั่ง อาจเสียตัวละ 10 บาท เอาเงินทำบุญ (พี่แก้วเสริม)
๕. เรื่องของไฟฟ้า ตำรวจ รถพยาบาล รถน้ำ สุขา ทางหลวงพ่อให้ทางก่อการบุญ ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด สระบุรี ให้เกียรติมาเป็นประธานในวันงาน แล้วให้พ่ออี๊ดเซ็นต์ เมื่อเสร็จห้ส่งมาที่วัด ทางวัดจะเป็นผู้จัดการยื่นเรื่องต่อผู้ว่าอีกที อย่าลืมใส่เบอร์โทรศัพท์ของพ่ออี๊ด พี่แป้ง แหม่ม อ้อย ลงไปด้วย
๖. อาหารในวันงาน ซึ่งจะมีวันที่ ๓๑ ตุลาคม ให้ทางเราจัดอาหารกันเอง ส่วนในวันที่ ๑ พฤศจิกายน ทางเราส่วนหนึ่ง ทางวัดส่วนหนึ่ง
๗. องค์กฐิน พ่ออี๊ดได้ถามว่า ใครเป็นผู้จัดทำ มีแบบสวยหรือเปล่า ให้หลวงพ่อฤาษีส่งรูปที่สวย ๆ มาให้ ซึ่งหลวงพ่อบอกว่าน่าจะมีฉากด้านหลังเป็นตัวอักษรก่อการบุญ หรือรูป ให้เห็นโดยมีเครื่องกฐินตั้งด้านหน้า แล้วหลวงพ่อจะหารูปองค์กฐินส่งให้อีกทีหนึ่ง (หลวงพ่อฤษีได้ส่งรูปให้กับทางพี่แก้วแล้ว)
๘. เตือนพ่ออี๊ดให้คุยกับคุณแหม่ม สุริวิภา เป็นการส่วนตัวอีกที ในวันประชุม (พุธที่ ๗ ตุลาคมนี้)
๙. สถานที่จอดรถในวันงาน ก็จอดได้ที่วัดและโรงเรียน แล้วจัดให้มีรถตู้รับ-ส่งเหมือนครั้งปลูกต้นไม้ ต้องขอความอนุเคราะห์รถตู้จากทางช่องและผู้จัดด้วย
๑๐. พ่ออี๊ดได้คุยกับหลวงพ่อ หลังจากได้ดูแปลนโบสถ์ว่า เมื่อเสร็จงานทอดกฐิน จะติดต่อทางผู้รับเหมาอย่างไร โครงสร้างต้องใช้วัสดุอย่างไร โดยหลวงพ่อได้บอกว่า วัสดุบางตัวสามารถรับบริจาคก็ได้ เช่น ปูน ทราย อิฐ แต่ต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน (หรือใครจะถวายเงินสดในการสร้างเสา 1 ต้นก็ได้) แบบของโบสถ์วัดเขาขี้เหล็ก หลวงพ่อได้แนวคิดมาจากโบสถ์วัดพนัญเชิง จากนั้นหลวงพ่อได้บอกว่าอยากเปลี่ยนชื่อวัด
เขาขี้เหล็ก มาเป็น
วัดก่อการบุญ อาจเปลี่ยนก่อนฝังลูกนิมิต (ซึ่งปกติชาวบ้านจะไม่เรียกวัดเขาขี้เหล็ก จะเรียกว่า วัดเขาเฉยๆ และเมื่อมีคณะก่อการบุญเข้ามาทำความเจริญให้วัด และเป็นคณะที่รวมคนทำบุญหลากหลายอาชีพ ชัดเจน มีจุดมุ่งหมาย เรียบง่าย และมีความหมายตรงข้ามกับคำไม่ดี สามารถสอนคนได้ (ก่อการบุญ)
๑๑. ในวันงานทอดกฐินจริง อาจมีองค์กฐินจากเจ้าภาพตามที่ต่างๆ มาทอดวันเดียวกับเราด้วย ทั้งนี้แล้วแต่หลวงพ่อฤษีว่า จะมีใครมาติดต่อหรือไม่ ทางเรายินดี
๑๒. เตือนแหม่มให้ประสานกับหลวงพ่อฤษีเรื่อง แสง สี เสียง เครื่องปั่นไฟ
๑๓. หลวงพ่อฤาษีบอกว่าในการสร้างโบสถ์ จะมีกรรมการตรวจการก่อสร้าง ผู้เซ็นต์สัญญาเป็นทางฝ่ายก่อการบุญ ส่วนขั้นตอนการก่อสร้างจะมีวิศวกรที่รับเหมาจะมาเป็นผู้ตรวจและผู้รับเหมาที่จะก่อสร้างโบสถ์นั้น อาจใช้ บ. ปวช. ลิขิต การสร้าง ( ตรอกเสถียร ถ.ตะนาว ๐๒-๒๒๔-๗๔๑๒ / ๐๒-๒๒๕-๒๐๕๐) หลวงพ่อบอกว่า งานดี ฉาบเรียบ ตอนนี้กำลังก่อสร้างโบสถ์ที่วัดพระพุทธฉายอยู่
จากที่คุยกันมาพักหนึ่ง พี่แป้งกะอ้อยก็ไปรบกวนหลวงพ่อเรื่องกาแฟ สักพักทุกคนต้องล้อมวงกันเพื่อทานของว่างที่หลวงพ่อจัดมาให้ (ตอนแรกพากันปฏิเสธหลวงพ่อ แต่ด้วยความหิว ซึ่งเพลา ณ ตอนนั้นปาเข้าไป บ่ายโมงกว่าแล้ว ชักหิวแล้ว) กินได้สักพัก ทางปลัด อบต. (คุณฉัตรชัย ศิริรักษ์), ท่านเจ้าอาวาสวัดเขาขี้เหล็ก , ตามด้วย คุณสุนันท์ จำรูญพานิชย์กุล ประธานคณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดสระบุรี มาพร้อมผู้ช่วย คุณพีระ สุขจินดา และสุดท้ายคือท่านรองนายก อบจ. สระบุรี (คุณเสน่ห์ เลาหะพานิช) ทุกท่านสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมคุยโทรศัพท์ติดต่อประสานงานให้เราเรียบร้อย สรุปดังนี้
๑๔. ให้ทาง อบต. ทำหนังสือถึง อบจ. เกี่ยวกับเรื่องปรับพื้นที่บริเวณวัดก่อน โดยให้ระบุขอเครื่องจักรพร้อมน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งทาง อบจ. จะให้คนไปสำรวจพื้นที่ก่อนว่าจะต้องปรับอย่างไรบ้าง พร้อมทั้งดูพื้นที่สำหรับเป็นที่จอดรถ
๑๕. สิ่งที่ทางวัดต้องทำคือ
ทำหนังสือไปถึงสาธารณสุข จังหวัดสระบุรี ขอรถพยาบาลเคลื่อนที่ โดยติดต่อผ่านทางคุณพีระ สุขจินดา
ทำหนังสือถึงนายกเทศบาลเมืองสระบุรีและเทศบาลเมืองทับกวาง เพื่อขอรถน้ำและรถสุขา จำนวน ๒ คัน
ป้ายบอกทางเข้าวัด ให้ทางปลัดฉัตรชัย เป็นผู้รับผิดชอบ
คุณสุรนันท์ได้ติดต่อขอร่มของธนาคารไทยพาณิชย์และกรุงไทย ประมาณ ๔๐ คัน โดยให้ทางปลัดฉัตรชัย เป็นผู้ออกหนังสือ
คุณสุรนันท์ได้ติดต่อขอน้ำดื่ม ๒,๐๐๐ ขวด ของโรงปูนตรานกอินทรีย์ ให้ทำหนังสือถึงคุณจรูญ จึงยิ่งเรืองรุ่ง
๑๖. เรื่องเครื่องปั่นไฟ ทางคุณฉัตรชัย ปลัด อบต. ได้ติดต่อทางผู้ใหญ่บ้าน มาใช้เป็นตัวเสริม น่าจะได้ประมาณ ๕๐ กิโลวัตต์ ซึ่งอาจต้องมีค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่าน้ำมันด้วย
๑๗. การทอดกฐิน หลวงพ่อฤาษีให้ทอดหลังเพลแล้ว ตอนเช้าใครมาก็กินเข้ากันก่อน
๑๘. ประสานให้ทางกู๋นุ้ย ส่ง File LOGO วัดเขาขี้เหล็ก , LOGO รูปก่อการบุญ, รูปโบสถ์ มาให้ทางหลวงพ่อฤาษี เพื่อที่จะได้ทำป้าย cut out (อ้อยได้ติดต่อทาง Prezentia ซึ่งจัดส่งเป็นที่เรียบร้อย พร้อมในวันประชุมพรุ่งนี้จะฝาก ซีดี ไปกับอาน้อยสุรพงษ์ เพื่อให้หลวงพ่อฤาษีอีกที)
และแล้วการมาวัดเขาขี้เหล็กในวันนี้ ก็ประสบความสำเร็จไปได้ส่วนหนึ่ง ส่วนพวกเราก่อการบุญหลังจากขมักเขม้นกับเรื่องรายละเอียดกันมาพอควร ก็ต้องขอลากลับ ส่วนหนึ่งต้องทำงานและที่สำคัญ ท้องไส้ทุกคนเริ่มแย่ หิวมากกกกก..... ใช้เวลาไม่ถึง ๕ นาที ทุกคนก็พร้อมใจกันลาหลวงพ่อกับบรรดาข้าราชการทั้งหลาย แต่มิลืมที่จะถ่ายรูปเก็บไว้ โดยช่างภาพคนเดิม แก้ว ชาญวุฒิ
บันทึกโดย อ้อย โนรี อินทนิล
เวลาประมาณ ๑๕.๒0 น.
ขอขอบคุณ 
บอกเล่าเก้าสิบ
และแล้วเราก็มาถึงวัดเขาขี้เหล็ก ตอน๑๑ น. โดยประมาณ โดยมีหลวงพ่อฤาษีและน้องนู๋ดี (หมาหน้าย่น ตัวสีน้ำตาล อายุไม่ถึง 1 เดือน นอนอ้อนอยู่บนตักหลวงพ่อ)
และเราก็เริ่มคุยกันไปพลาง ๆ ก่อน ระหว่างรอท่านเจ้าอาวาส สมภาร สรุปได้ดังนี้
(เป็นมุขของหลวงพ่อ) โดยหลวงพ่อได้แนะว่าในใบบอกบุญ หรือซองทำบุญ ต้องมีการประทับตรายางด้วย ซึ่งพวกเราก็น้อมรับและบอกหลวงพ่อว่าที่ใบบอกบุญสวยเช่นนี้ก็มาจากทางกู๋นุ้ย และทางพี่แจง Prezentia เป็นคนจัดการไม่ว่าจะเป็นการออกแบบโลโก้ รูปภาพ ฯลฯ และหลวงพ่อท่านจะให้นำใบบอกบุญมาไว้ที่วัดพระพุทธฉาย เป็นจำนวนประมาณ ๓,๐๐๐ ฉบับ เพื่อได้แจกจ่าย โดยทางพ่ออี๊ดจะให้ทางคุณน้อย สุรพงษ์ เป็นผู้นำไปให้หลวงพ่อ
๑๐. พ่ออี๊ดได้คุยกับหลวงพ่อ หลังจากได้ดูแปลนโบสถ์ว่า เมื่อเสร็จงานทอดกฐิน จะติดต่อทางผู้รับเหมาอย่างไร โครงสร้างต้องใช้วัสดุอย่างไร โดยหลวงพ่อได้บอกว่า วัสดุบางตัวสามารถรับบริจาคก็ได้ เช่น ปูน ทราย อิฐ แต่ต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน (หรือใครจะถวายเงินสดในการสร้างเสา 1 ต้นก็ได้) แบบของโบสถ์วัดเขาขี้เหล็ก หลวงพ่อได้แนวคิดมาจากโบสถ์วัดพนัญเชิง จากนั้นหลวงพ่อได้บอกว่าอยากเปลี่ยนชื่อวัดเขาขี้เหล็ก มาเป็น วัดก่อการบุญ อาจเปลี่ยนก่อนฝังลูกนิมิต (ซึ่งปกติชาวบ้านจะไม่เรียกวัดเขาขี้เหล็ก จะเรียกว่า วัดเขาเฉยๆ และเมื่อมีคณะก่อการบุญเข้ามาทำความเจริญให้วัด และเป็นคณะที่รวมคนทำบุญหลากหลายอาชีพ ชัดเจน มีจุดมุ่งหมาย เรียบง่าย และมีความหมายตรงข้ามกับคำไม่ดี สามารถสอนคนได้ (ก่อการบุญ)
จากที่คุยกันมาพักหนึ่ง พี่แป้งกะอ้อยก็ไปรบกวนหลวงพ่อเรื่องกาแฟ สักพักทุกคนต้องล้อมวงกันเพื่อทานของว่างที่หลวงพ่อจัดมาให้ (ตอนแรกพากันปฏิเสธหลวงพ่อ แต่ด้วยความหิว ซึ่งเพลา ณ ตอนนั้นปาเข้าไป บ่ายโมงกว่าแล้ว ชักหิวแล้ว) กินได้สักพัก ทางปลัด อบต. (คุณฉัตรชัย ศิริรักษ์), ท่านเจ้าอาวาสวัดเขาขี้เหล็ก , ตามด้วย คุณสุนันท์ จำรูญพานิชย์กุล ประธานคณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดสระบุรี มาพร้อมผู้ช่วย คุณพีระ สุขจินดา และสุดท้ายคือท่านรองนายก อบจ. สระบุรี (คุณเสน่ห์ เลาหะพานิช) ทุกท่านสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมคุยโทรศัพท์ติดต่อประสานงานให้เราเรียบร้อย สรุปดังนี้
